แลมพาร์ดเปิดใจ หลังโดนไล่ออกจากทอฟฟี่

แฟรงค์ แลมพาร์ดโดนปลด จากกุนซือทอฟฟี่พร้อมเปิดใจครั้งแรก

แฟรงค์ แลมพาร์ดโดนปลด จากตำแหน่งผู้จัดการทีมเอฟเวอร์ตันและกลายสภาพเป็นคนว่างงานเมื่อตกเก้าอี้ตามคาดจากการถูก ฟาร์ฮัด โมชิรี่ เจ้าของทีม ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน UFABET ไล่ออกเซ่นผลงานคุมทีมหล่นไปเป็นอันดับรองบ๊วยของ พรีเมียร์ลีก ซึ่งเสี่ยงต่อการตกชั้นเป็นอันมาก

กระทั่งล่าสุดเมื่อ 26 ม.ค. แลมพาร์ด ซึ่งผ่านการคุมทีม ดาร์บี้ และ เชลซี มาก่อนได้เผยความรู้สึกออกมาแล้วหลังมีอันต้องระเห็จออกจาก กูดิสัน พาร์ค

“ผมรู้ว่าเราตกอยู่ในสถานภาพที่หนักหนาสาหัสตอนที่ผมมาที่ เอฟเวอร์ตัน ปีก่อน และผมภูมิใจเสมอที่ได้ทำงานอย่างน่าทึ่ง และได้รับการสนับสนุนจากทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการพาทีมอยู่รอดใน พรีเมียร์ลีก เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา” แลมพาร์ด โพสต์หลังจากเขาเข้ามารับงานแทนที่ ราฟาเอล เบนิเตซ เมื่อเดือนม.ค.2022

“ขอบคุณทุกคนที่มีส่วนร่วมแรงร่วมใจกัน ผมจะไม่ลืมคืนในเกมกับ พาเลซ ที่เราแชร์ร่วมกัน ผมอยากขอบคุณ เอฟเวอร์โตเนี่ยน ทุกคนที่ต้อนรับผม สตาฟฟ์ของผม และครอบครัวของผม นี่คือสโมสรที่วิเศษซึ่งมีหัวใจที่ยิ่งใหญ่ และมีประวัติศาสตร์ที่น่าทึ่ง“

ประวัติ

แฟรงค์ เจมส์ แลมพาร์ด เกิดเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2521 เป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลอาชีพชาวอังกฤษ และเป็นอดีตผู้เล่นซึ่งล่าสุดเป็นผู้จัดการทีมสโมสรเอฟเวอร์ตันในพรีเมียร์ลีก เขาได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเชลซี และเป็นหนึ่งในกองกลางที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคของเขา เขามีสถิติการทำประตูโดยกองกลางมากที่สุดในพรีเมียร์ลีกและทำประตูจากนอกกรอบได้มากที่สุด เขาติดอันดับสูงในสถิติผู้เล่นพรีเมียร์ลีกเป็นเวลาสิบปีนับจากวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2543 รวมถึงเกมส่วนใหญ่และชัยชนะมากที่สุด

แลมพาร์ดเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกที่สร้างสรรค์และมีพรสวรรค์ด้านเทคนิค เขาเริ่มอาชีพค้าแข้งในปี 1995 ที่เวสต์แฮมยูไนเต็ด ซึ่งเป็นสโมสรที่แฟรงค์ แลมพาร์ด ซีเนียร์ พ่อของเขาเล่นด้วย เขาเป็นที่รู้จักดีที่สุดจากช่วงเวลาที่เล่นกับคู่แข่งในลอนดอนอย่างเชลซี ซึ่งเขาเซ็นสัญญาในปี 2544 ด้วยค่าตัว 11 ล้านปอนด์ ตลอด 13 ปีกับสโมสร แลมพาร์ดได้สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในฐานะผู้ทำประตูมากมายจากตำแหน่งกองกลาง และกลายเป็นผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลของเชลซี โดยทำได้ 211 ประตูในทุกรายการ ufalion168

แลมพาร์ดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัย, ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก, ยูฟ่ายูโรปาลีก, เอฟเอคัพ 4 สมัย และฟุตบอลลีกคัพ 2 สมัย ในปี 2548 เขาได้รับเลือกให้เป็นนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของ FWA และได้รับรางวัลรองชนะเลิศทั้ง Ballon d’Or และ FIFA World Player of the Year หลังจากออกจากเชลซี แลมพาร์ดเล่นให้กับทีมคู่แข่งร่วมลีกอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และสโมสรในเมเจอร์ลีกซอกเกอร์ (MLS) อย่างนิวยอร์กซิตี้เอฟซี ก่อนจะแขวนสตั๊ดในปี 2560

แลมพาร์ดเป็นหนึ่งในผู้เล่น 10 คน และเป็นมิดฟิลด์คนเดียวที่ทำประตูได้ 150 ประตูขึ้นไปในพรีเมียร์ลีก เขาอยู่ในอันดับที่สี่ในการจัดอันดับแอสซิสต์ตลอดกาลของพรีเมียร์ลีก โดยมี 102 แอสซิสต์ แลมพาร์ดมีสถิติเพิ่มเติมของเชลซีและพรีเมียร์ลีกหลายรายการ และได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของ PFA Fans และรางวัล FWA Tribute Award ในอาชีพของเขา

เขาได้รับการเสนอชื่อให้อยู่ในทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของ PFA สามครั้ง ผู้เล่นพรีเมียร์ลีกประจำเดือน 4 ครั้ง ผู้เล่นพรีเมียร์ลีกแห่งฤดูกาล 1 ครั้ง และเป็นผู้ให้การช่วยเหลือสูงสุดของพรีเมียร์ลีก 3 ครั้ง และได้รับการเสนอชื่อใน FIFPro World XI และ MLS All-Star หลังจากจากไป แลมพาร์ดได้รับการเสนอชื่อให้อยู่ในทีมเชลซีแห่งทศวรรษจากการโหวตของแฟนบอลเชลซี และเข้าสู่หอเกียรติยศพรีเมียร์ลีก

แลมพาร์ดลงเล่นให้ทีมชาติอังกฤษไปทั้งหมด 106 นัด หลังจากเปิดตัวครั้งแรกในปี 1999 เขาเป็นตัวแทนประเทศของเขาในการแข่งขัน FIFA World Cups 3 ครั้งในปี 2006, 2010 และ 2014 และใน UEFA Euro 2004 ซึ่งเขาได้รับเลือกให้อยู่ในทีมยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์ . แลมพาร์ดทำประตูให้อังกฤษได้ 29 ประตู และได้รับเลือกให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของอังกฤษในปี 2547 และ 2548 หลังจากเลิกเล่นฟุตบอลทีมชาติ

เขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าหน้าที่ของภาคีแห่งจักรวรรดิอังกฤษ (OBE) ในปี 2558 เพื่อรับใช้วงการฟุตบอล หลังจากเลิกเล่น แลมพาร์ดทำหน้าที่เป็นกัปตันทีมในรายการกีฬาของ ITV เรื่อง Play to the Whistle ตั้งแต่ปี 2015 จนถึงปี 2017 เขายังเขียนหนังสือสำหรับเด็กอีกหลายเล่มด้วย

แลมพาร์ดเริ่มต้นอาชีพผู้จัดการทีมกับดาร์บี้ เคาน์ตี้ในปี 2018 โดยพาสโมสรไปถึงรอบชิงชนะเลิศของแชมเปี้ยนชิพเพลย์ออฟในฤดูกาลนั้น เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าโค้ชของเชลซีในอีกหนึ่งปีต่อมา โดยพาพวกเขาไปสู่อันดับที่สี่และเข้ารอบชิงชนะเลิศเอฟเอคัพในฤดูกาลแรกของเขา อย่างไรก็ตาม หลังจากผลงานย่ำแย่ แลมพาร์ดก็ถูกไล่ออกในปี 2021

ผู้จัดการทีมเอฟเวอร์ตัน

หลังจากตกงานมาหนึ่งปี แลมพาร์ดได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการทีมสโมสรเอฟเวอร์ตันในพรีเมียร์ลีกเมื่อวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2565 หลังจากการปลดราฟาเอล เบนิเตซ เนื่องจากผลงานย่ำแย่ ในเวลาที่ได้รับการแต่งตั้ง สโมสรอยู่ในอันดับที่ 16 เหนือโซนตกชั้นอยู่สี่คะแนน เมื่อเหลืออีกหนึ่งเกมในฤดูกาล 2021–22

ในวันที่ 19 พฤษภาคม แลมพาร์ดนำเอฟเวอร์ตันไปสู่ความปลอดภัยในพรีเมียร์ลีกโดยรักษาสถานะการบินสูงสุด 68 ปี คริสตัลพาเลซตามหลัง 2–0 ในครึ่งแรก แลมพาร์ดนำเดเล อัลลี และเล่นเกมรุกมากขึ้นส่งผลให้ทีมเมอร์ซีย์ไซด์ชนะ 3–2 แลมพาร์ดบรรยายค่ำคืนนี้ว่าเป็น “คืนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาชีพการงานของผม”

ฤดูกาลถัดมาสโมสรตกอยู่ในการต่อสู้เพื่อตกชั้นอีกครั้ง โดยชนะเพียง 1 นัดจาก 11 นัด ทำให้สโมสรอยู่อันดับที่ 19 ในลีกภายในเดือนมกราคม Farhad Moshiri เจ้าของ Everton ในการให้สัมภาษณ์กับ Talksport แนะนำว่าตำแหน่งของแลมพาร์ดที่สโมสรยังคงปลอดภัยแม้จะมีรูปแบบนี้ก็ตาม อย่างไรก็ตาม แลมพาร์ดถูกไล่ออกในอีกไม่กี่วันต่อมาในวันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2566 ซึ่งเป็นงานเพียง 8 วันน้อยกว่าหนึ่งปี หลังจากแพ้เวสต์แฮม 2–0

ไก่เดือยทองเสริมทัพ จับ อาร์เนาต์ ดันยูม่า เซ็นสัญญาเรียบร้อยแล้ว
ศุภณัฎฐ์จัดให้ช่วงท้ายเกม เซาะกราวปิดเกมเหนือกิเลนผยอง
ปีศาจแดงแรงฟ้าผ่า บุกถล่มเจ้าป่า ถึง ซิตี้ กราวด์
ผลงานเข้าตา สมาคมฟุตอิเหนา ให้ ชิน แท-ยง นั่งเก้าอี้ต่อไป

Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2023 (ข้อมูลล่าสุดปี 2023) VIEWS : 51 views