เกมไพ่ แบล็คแจ็ค

เกมไพ่ แบล็คแจ็ค

เกมไพ่ แบล็คแจ็ค ถือเป็นเกมไพ่อีกหนึ่งเกมที่ได้รับความนิยมอย่างมากใน คาสิโน แถบยุโรป เพราะเป็นเกมที่มีการรวมกันเล่นหลายคน และมีความสนุก ในวิธีการเล่นนั้ก็สามารถที่จะทำความเข้าใจได้อย่างง่าย เพียงผู้เล่นมีไพ่ในมือ slot xo ที่มีแต้มใกล้เคียง 21 แต้ม ก็จะเป็นฝ่ายชนะ หากแต้มเท่ากัน 21 ก็ถือว่าเป็นแต้มที่สูงสุด และจะได้อัตราการจ่ายเงินเพิ่มขึ้นด้วย และในปัจจุบัน ได้มีการนำเอา เกมไพ่ แบล็คแจ็คมาพัฒนาในรูปแบบของ คาสิโนออนไลน์ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้เล่นเดิมพัน ให้สามารถเข้าเล่นเดิมพันได้ง่ายขึ้น สะดวกสบายขึ้น และเข้าถึงง่าย เกมไพ่ แบล็คแจ็ค เทคนิคไพ่แบล็คแจ็ค จึงเป็นเกมที่ได้รับความนิยมใน คาสิโนออนไลน์ เช่นกัน ufabet

กติกาการเล่น เกมไพ่ แบล็คแจ็ค

มีหลักการง่ายๆ คือ หลังจากแจกไพ่ให้ผู้เล่นครบทุกคนแล้ว ก็สามารถจั่วไพ่ ได้ไม่จำกัด จั่วจนกว่าแต้มของคุณจะเกิน 21 แต้ม หรือได้แต้ม ที่พอใจ และหากแต้มเกิน 21 ก็จะหมดสิทธิ์จั่วเช่นกัน แบล็คแจ็คเป็นเกมเดิมพันของผู้เล่นกับเจ้ามือ แต้มของผู้เล่นคนอื่นบนโต๊ะ จะไม่ส่งผลใดๆต่อไพ่ของคุณ สล็อต

แต้มของไพ่

• ไพ่ตั้งแต่ 2 – 10 มีแต้มตามหน้าของไพ่
• ไพ่ J Q K มีค่าเท่ากับ 10 แต้ม
• A มีแต้มเป็น 1 หรือ 11 ก็แล้วแต่ไพ่ในมือของท่านจะมีแต้งรวมเท่าไหร่นั้นเอง
• แต้มรวมของไพ่เท่ากับ 21 คือ ไพ่แบล็คแจ็ค

การประกัน

เมื่อดีลเลอร์ที่หงายไพ่ใบแรกนั้นคือ A เกมก็จะมีระบบประกันขึ้นมา เพื่อที่จะเป็นสิ่งประกันความเสี่ยง หากเจ้ามือนั้นมีแต้ม 21 หรือได้ แบล็คแจ็ค เงินรางวัลของการประกัน ก็จะเท่ากับครึ่งหนึ่ง ของเงินที่ผู้เล่นนั้นวางเดิมพันไว้ หากเปิดไพ่ขึ้นมาแล้ว เจ้ามือไม่ได้แต้มถึง 21 หรือแบล็คแจ็ค เกมก็จะดำเนินต่อไป หากแต้มเสมอกัน ผู้เล่นก็สามารถรับเงินของผู้เล่นคืนได้

เดิมพันเพิ่มเป็นสองเท่า

หากเจ้ามือทำการเปิดไพ่สองใบแรกแล้ว เจ้ามือยังไม่ได้แบล็คแจ็ค ผู้เล่นก็จะมีโอกาศเรียกไพ่เพิ่ม และสามารถเพิ่มวงเงินเดิมพันเป็นสองเท่าได้ และเมื่อผู้เล่นนั้นเลือกเดิมพันเป็นสองเท่า ดีลเลอร์ก็จะแจกไพ่ไห้ผู้เล่นเพียงใบเดียว แต่หากผู้เล่นเลือกที่จะจั่วไพ่เพิ่ม ผู้เล่นก็จะสามารถเพิ่มไพ่ได้ ตามที่ต้องการ และถ้าเลือกที่จะหยุดจั่ว ผู้เล่นก็จะไม่ได้ไพ่เพิ่มเลยนั้นเอง

การแยกไพ่

หากไพ่ในมือของผู้เล่นนั้น มีแต้มเท่ากันในสองใบแรก เช่น 2,2 4,4 A,A ผู้เล่นจะสามารถเลือกแยกไพ่ออกเป็นสองมือได้ โดยจำนวนเงินในการวางเดิมพัน จะต้องเท่ากับเงินเดิมพันหลักของผู้เล่นเอง เช่น หากวางเดิมพันหลัก 100 แยกไพ่แล้ว จะต้องวางเดิมพันขาละ 100 นั่นเอง และเมื่อแยกไพ่แล้ว ก็จะสามารถเล่นได้ตามปกติ ไม่ว่าจะเป็นการจั่วไพ่ การหยุดจั่ว และแบบต่างๆ นั่นเอง Sa gaming

ผลลัพธ์ในการเล่น

1. หากแต้มในมือ มีแต้มเกิน 21 คุณจะแพ้และเสียเงินทันที
2. หากได้แต้มที่พอใจแล้ว ดีลเลอร์จะทำการเปิดไพ่ หากเจ้ามือมีแต้มเท่ากับ 17 นั้นจะไม่สามารถจั่วไพ่เพิ่มได้นั่นเอง
3. ผู้เล่นจะชนะนั้นก็ต่อเมื่อ ไพ่ในมือมีแต้มสูงกว่าดีลเลอร์ และไพ่นั้นเป็นแบล็คแจ็ค และหากมีไพ่ที่แต้มเสมอกัน คุณก็จะได้รับเงินเดิมพันคืน

รูปแบบการวางเดิมพัน

ในการวางเดิมพัน ของไพ่แบล็คแจ็คนั้น จะมีการวางเดิมพันข้างเคียง (Bet Side) ได้อีกด้วย ให้ผู้เล่นนั้น สามารถเลือกที่จะทำการวางเดิมพันได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Bet Behind , 21+3 , Perfect Pair และวันนี้ เราจะมาอธิบายการวางเดิมพันแต่ล่ะรูแปบบให้ผู้เล่นได้รู้จักรูปแบบการวางเดิมพันของ เกมไพ่ แบล็คแจ็ค

วางเดิมพัน Bet Behind

Bet Behind คือ การเดิมพันตามผู้เล่นคนอื่นๆ คือ คุณจะสามารถอ้างอิงการชนะจากไพ่ของผู้เล่นคนอื่นได้ และสามารถกำหนดเงินเดิมพันเอง แต่ไม่สามารถบอกให้เขานั้นจั่วไพ่เพิ่ม หรือหยุดเรียกไพ่เพิ่มได้ หากคุณได้วางเดิมพันตามใครแล้ว คุณจะไม่มีสิทธิ์ทำอะไร นอกจากวางเดิมพันตามผู้เล่นนคนนั้นนั่นเอง เกมยิงปลา

วางเดิมพัน Perfect Pair

เป็นการวางเดิมพันที่จะช่วยให้คุณนั้น มีโอกาสที่จะชนะ เพียงแค่ใช้ไพ่ 2 ใบแรกเท่นั้น โดยที่ไพ่ของคุณ 2 ใบแรก จะต้องเป็นไพ่คู่ เช่น 2-2, 3-3, 4-4, Q-Q เป็นต้น

• คู่เหมือน ไพ่ทั้งสองใบจะต้องมีดอกเดียวกัน เช่น 2 ใบ A โพแดงสองใบ จะมีอัตราการจ่ายอยู่ที่ 25 : 1 (ขึ้นอยู่ที่อัตราจ่ายของโต๊ะนั้นๆ ด้วย)
• คู่สี ไพ่ทั้งสองใบนั้นจะต้องมีสีเหมือนกันสองใบ แต่มีดอกที่ต่างกันได้ เช่น 2 โพแดงกับ 2 ข้าวหลามตัด อัตราการจ่ายอยู่ที่ 12 : 1 (ขึ้นอยู่ที่อัตราจ่ายของโต๊ะนั้นๆ ด้วย)
• คู่ผสม ดอกและสีต่างกัน เช่น 10 โพแดง กับ 10 โพดำ อัตราการจ่ายอยู่ที่ 6 : 1 (ขึ้นอยู่ที่อัตราจ่ายของโต๊ะนั้นๆ ด้วย)

วางเดิมพัน 21+3

การเดิมพัน 21+3 คือการที่ไพ่ในมือของคุณ มีโอกาสที่จะเกิดการ ตองเหมือน, สเตรทฟลัช, ตอง,สเตรท,ฟลัช และ หากชนะในรูปแบบแบล็คแจ็คที่กล่าวมานี้ ก็จะมีอัตราการจ่ายที่เพิ่มมากขึ้น

• ตองเหมือน คือ การมีไพ่สามใบ ที่เหมือนกัน เช่น A โพดำสามใบ และมีอัตราการจ่ายอยู่ที่ 100 : 1 (ขึ้นอยู่ที่อัตราจ่ายของโต๊ะนั้นๆด้วย)
• สเตรทฟลัช คือ การเรียงกันตามลำดับ และมีไพ่ดอกเดียวกัน เช่น 10 J Q โพแดง เป็นต้น อัตราการจ่ายจะอยู่ที่ 40 : 1 (ขึ้นอยู่ที่อัตราจ่ายของโต๊ะนั้นๆด้วย)
• ตอง คือ การที่มีไพ่สามใบเหมือนกัน แต่สามารถมีสี และดอกที่แตกต่างกันได้ เช่น 3 3 3 สีต่างกัน ดอกต่างกัน ก็ได้ อัตราการจ่ายจะอยู่ที่ 30 : 1 (ขึ้นอยู่ที่อัตราจ่ายของโต๊ะนั้นๆด้วย)
• สเตรท คือ ไพ่นั้นเรียงกันตามลำดับ แต่สามารถมีสี และดอกของไพ่ที่แตกต่างกันได้ เช่น 2 โพแดง 3 ดอกจิก 4โพดำ อัตราการจ่ายจะอยู่ที่ 10 : 1 (ขึ้นอยู่ที่อัตราจ่ายของโต๊ะนั้นๆด้วย)
• ฟลัช คือ การที่ไพ่ในมือนั้นมีดอกเดียวกันสามใบ เช่น 2 โพแดง 5 โพแดง 8 โพแดง จะมีอัตราการจ่ายอยู่ที่ 5 : 1 (ขึ้นอยู่ที่อัตราจ่ายของโต๊ะนั้นๆด้วย)

และนี่ก็คือกติกาของ เกมไพ่แบล็คแจ็ค และรูปแบบการวางเดิมพันต่างๆ ของ เกมไพ่ แบล็คแจ็ค ที่เรานั้นทำวิเคราะห์ เกมไพ่บาคาร่า เพื่อที่จะนำมาเขียนเป็นวิธีการเล่น เพื่อช่วยให้ผู้อ่านนั้นได้รู้จักกติกา และวิธีการเล่น เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการเล่น เกมไพ่ แบล็คแจ็ค และต่อไป เราจะมีเรื่องอะไรเกี่ยวกับ คาสิโนออนไลน์ มาอัพเดท สาารถติดตามกันได้ที่ casinopublicity เลยค่ะ เป็นเว็บที่รวบรวมความรู้เรื่อง เกม คาสิโนออนไลน์ ต่างๆ UFABET

Last Update : 15 กันยายน 2020 (ข้อมูลล่าสุดปี 2020) VIEWS : 1259 views