UFABET OFFICIAL SPORT NEWS ข่าวสารวงการกีฬา ที่น่าสนใจ
เมื่อ 8 ปีก่อน หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าชาวอุรุกวัย ได้สร้างชื่อให้ตัวเองกลายเป็นข่าวหน้า 1 ของสื่อทุกสำนักจากการที่เขากัด บรานิสลาฟ อิวาโนวิช เซนเตอร์แบ็กชาวเซิร์บ UFABET ระหว่างเกมที่ ลิเวอร์พูล ปะทะกับ เชลซี
นั่นคือหนึ่งในวีรเวรที่เขาได้สร้างเอาไว้ในหน้าประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ และมันไม่ใช่แค่เรื่องเดียวที่เขาได้ทำให้วงการฟุตบอลต้องเสื่อมเสีย เพราะในระดับชาติ ซัวเรซ ก็ทำให้โลกได้เห็นแล้วว่าเขาพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้ทีมได้ชัยชนะ
ไม่มีใครสงสัยว่า ซัวเรซ คือกองหน้าระดับโลกที่เต็มไปด้วยศักยภาพในการถล่มประตูคู่แข่ง เพราะผลงานที่ซัดไป 500 ประตูตลอดอาชีพของเขาทั้งการเล่นในระดับสโมสรและทีมชาติ รวมไปถึงการคว้าโทรฟี่แชมป์มากมาย แต่พฤติกรรมที่ฉาวโฉ่ที่เจ้าตัวสร้างเอาไว้ในเกมลูกหนัง ยังคงเป็นรอยด่างพร้อยในชีวิตของเขาจนกระทั่งปัจจุบันนี้
มันยากที่จะลืมภาพที่ ซัวเรซ โชว์ลีลาขย้ำเข้าไปที่แขนของ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ได้จริงๆ เพราะตอนนั้นดูเหมือนเขาจะต้องเจอกับความยากลำบากในการตามประกบติดของคู่แข่งในแมตช์ที่ปะทะกับ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี
ไม่รู้ว่าตอนนั้นซัวเรซ เกิดอาการหิวหรือเครียดที่ไม่สามารถสลัดหนี อิวาโนวิชได้ ก็เลยจัดการกัดเข้าไปที่แขนของปราการหลังเลือดเซิร์บมันซะเลย โดยตอนนั้น อิวาโนวิช ได้โชว์รอยฟันจากคู่กรณีให้ เควิน เฟรนด์ กรรมการได้เห็น แต่ก็ไม่มการลงโทษใดๆ ระหว่างเกมนั้น
แถมที่เจ็บปวดใจดั่งไฟสุมทรวงก็คือ ซัวเรซ ดัน ยิงประตูตีเสมอให้กับ ลิเวอร์พูล ช่วงทดเจ็บซะด้วย อย่างไรก็ตามคนผิดไม่มีทางรอดพ้นกรรมไปได้ สุดท้าย ซัวเรซ ต้องออกมาขอโทษ อิวาโนวิช แต่มีรายงานว่าคู่กรณีไม่ยอมรับคำขอโทษ
ขณะเดียวกับ เดวิด คาเมร่อน นายกรัฐมนตรีอังกฤษในเวลานั้นได้โทรเข้าไปหาสมาคมฟุตบอลเมืองผู้ดี (เอฟเอ) เพื่อหวังให้จัดการลงโทษ ซัวเรซ อย่างหนักจากพฤติกรรมดังกล่าว บทสรุปก็คือ “คิง หลุยส์” โดนสั่งแบนยาว 10 เกม
การกัด อิวาโนวิช เป็นเรื่องที่เลวร้ายมากๆ และเป็นเหตุการณ์ฉาวโฉ่ไปทั่วโลก แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่ครั้งแรกที่ ซัวเรซ ได้ลิ้มรสชาติเนื้อมนุษย์แบบสดๆ เพราะก่อนหน้านี้เขาได้เคยสร้างวีรเวรเอาไว้สมัยค้าแข้งในประเทศฮอลแลนด์
ตอนนั้น ซัวเรซ ยังเล่นให้กับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม โดยเจ้าตัวไม่รู้ไปหงุดหงิดอะไรถึงได้จัดการใช้ฟันเฉาะเข้าไปที่หัวไหล่ของ อ็อตมาน บัคคัล”กองกลางพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น แทงบอล และแน่นอนว่าการทำแบบนั้นยิ่งเพิ่มดีกรีความเดือดให้กับสองทีมคู่อริเข้าไปอีก
จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ เด เทเลกราฟ สื่อดังในเมืองดัตช์ ตั้งฉายาให้กับ ซัวเรซว่า “แคนนิบัล แห่ง อาแจ็กซ์” (Cannibal of Ajax) และแน่นอนว่าพฤติกรรมกินเนื้อมนุษย์ของเขาส่งผลให้โดน เอฟเอฮอลแลนด์ สั่งแบนไปเบาๆ 7 แมตช์
นั่นเป็นเกมสุดท้ายของเขากับอาแจ็กซื ก่อนที่จะย้ายมาเล่นให้ ลิเวอร์พูล ในอีก 2 เดือนถัดมา แต่มันคือจุดเริ่มต้นของความกระหายเนื้อมนุษย์ของเขา
ปกติแล้วคนเรามักจะทำอะไรสำเร็จในครั้งที่สาม แต่มันก็ไม่จริงเสมอไป ! ดูเหมือนว่า ซัวเรซ จะติดใจรสชาติของเนื้อมนุษย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และสิ่งที่เขาได้ทำในครั้งนี้ยิ่งนำไปสู่ชื่อเสียงในฐานะคนกินคนแบบเต็มรูปแบบ เพราะเขาจัดการเขมือบหัวไหล่ของ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ ในศึกฟุตบอลโลก 2014 ที่ อุรุกวัย ดวลกับ อิตาลี ในรอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ก็เหมือนกับกรณีของ บัคคัล และ อิวาโนวิช โดย คิเอลลินี่ พยายามโชว์แผลที่โดน ซัวเรซ ขย้ำให้กับผู้ตัดสินได้เห็น ในขณะที่คู่กรณีทำเป็นแกล้งเจ็บดิ้นทุรนทุรายพร้อมกับเอามือปิดปากราวกับว่าตัวเองโดนทำร้ายร่างกาย
แน่นอนว่ามารยาทของ ซัวเรซ ประสบความสำเร็จเมื่อเขายังคงได้อยู่ในสนามต่อไป และอีกไม่กี่นาทีหลังจากนั้น อุรุกวัย ก็ได้ประตูชัย ส่งให้พวกเขาทะลุเข้ารอบน็อกเอาต์ แต่ก็อย่างที่เคยบอกคนทำผิดไม่มีทางรอดพ้นกฎแห่งกรรมไปได้
การกระทำดังกล่าวส่งผลให้ ฟีฟ่า ทำการลงโทษอย่างรุนแรงด้วยการแบนเขาห้ามยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมฟุตบอลทุกชนิดเป็นเวลา 4 เดือน โดย ซัวเรซ โดนเฉดหัวออกจากมหกรรมฟุตบอลแห่งมวลมนุษยชาติ และ อุรุกวัย ก็พ่ายให้กับ โคลอมเบีย ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายไปโดยปริยาย
การกัด คิเอลลินี่ ไม่ใช่เรื่องฉาวครั้งแรกที่ ซัวเรซ ได้สร้างเอาไว้กับเกมฟุตบอลโลก ย้อนกลับไปในปี 2010 เจ้าตัวได้ใช้มือสกัดบอลบนเส้นในเกมที่พบกับ กานา ศึกฟุตบอลโลก ที่แอฟริกาใต้ ซึ่งนั่นเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่แสนเลวร้ายจากตัวของเขา
ในเวลานั้น กานา กำลังพยายามที่จะกลายเป็นชาติในทวิปแอฟริกาชาติแรกที่ได้ทะลุเข้ารอบรองชนะเลิศ ศึกเวิลด์ คัพ และการปะทะกับ อุรุกวัย พวกเขาต้องสู้กันจนถึงช่วงต่อเวลาพิเศษ PGSLOT โดยสถานการณ์ในตอนนั้นผลการแข่งขันเสมอกันอยู่ 1-1 และในนาทีสุดท้ายของการต่อเวลาพิเศษ โดมินิค อดิเยียห์ มีโอกาสทำประตูชัยให้กับกานา
อดิเยียห์ กระโดดโหม่งอย่างสวยงามบอลกำลังจะเข้าประตูอยู่แล้ว แต่ ซัวเรซ ใช้มือปัดบอลออกมาจากเส้นประตู แน่นอนว่าการทำแบบนั้นส่งผลให้เจ้าตัวโดนไล่ออก และ กานา ได้จุดโทษ แต่สุดท้าย อาซาโมอาห์ กียาน สังหารจุดโทษไปชนคาน ขณะที่ ซัวเรซ ดีใจแทบบ้าคลั่งขณะที่เดินเข้าไปในอุโมงค์ ราวกับแผนชั่วของเขาประสบความสำเร็จ
ที่เลวร้ายยิ่งกว่านั้นก็คือ กานา ดวลจุดโทษแพ้ อุรุกวัย อย่างน่าเจ็บปวด อดสร้างประวัติศาสตร์ไปอย่างน่าเสียดาย ส่วน อุรุกวัย แพ้ ฮอลแลนด์ ในรอบตัดเชือก ส่วนเกมชิงที่สามกับ เยอรมนี ซัวเรซโดนโห่ทุกครั้งที่สัมผัสบอล และบทสรุปก็พ่าย “อินทรีเหล็ก”
แมตช์ ระหว่าง ลิเวอร์พูล พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มันกลายเป็นแมตช์ที่สร้างความเป็นศัตรูคู่อาฆาตให้กับ ซัวเรซ อย่างแท้จริง โดยเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ ดาวเตะชาวอุรุวัย กลายเป็นจุดศูนย์กลางเรื่องดราม่าในเกม “แดงเดือด” ครั้งแรกของเขาในปี 2011
เหตุการณ์ทะลักจุดเดือดเกิดขึ้นระหว่างผู้เล่นทั้งสองทีม โดยเริ่มมาจากจังหวะที่ ราฟาเอล เข้าปะทะอย่างรุนแรงใส่ ลูคัส เลว่า จากนั้น ซัวเรซ ก็ต้องเจอกับการเสียบอย่างน่าเกลียดของแบ็กขาวชาวบราซิเลียน ส่งผลให้เขาเดินเข้าไปหาคู่กรณีทันที
แต่แทนที่จะพยายามพูดคุยกับดีๆ เฉกเช่นผู้เจริญแล้วควรทำ แต่ ซัวเรซ กลับกระชากผมของ ราฟาเอล ด้วยความหงุดหงิด อย่างไรก็ตามเหตุการณ์นั้นกรรมการมองไม่เห็น และ ลิเวอร์พูล ก็คว้าชัยชนะไปแบบสบายเกือก 3-1
หลังจากนั้นอีก 7 เดือน ลิเวอร์พูล มีคิวดวลกับ แมนฯยูไนเต็ด โดยเกมนั้น ปาทริซ เอวร่า กล่าวหา ซัวเรซ ว่าพูดจาเหยียดผิวเขาด้วยภาษาสแปนิช งานนี้นักเตะได้ปฏิเสธอย่างเต้มที่ แต่สุดท้ายก็โดน เอฟเอ ลงโทษแบน 8 เกมพร้อมปรับเงิน 40,000 ปอนด์ (ราว 1.5 ล้านบาท)
ที่น่าเหลือเชื่อก็คือ บรรดาแข้ง “หงส์แดง” สวมเสื้อเพื่อสนับสนุน ซัวเรซ ในระหว่างที่ทำการวอร์มร่างกายเกมพบ วีแกน แอธเลติก อย่างไรก็ตาม เจมี่ คาร์ราเกอร์ ตำนานของทีม ได้ยอมรับเมื่อปี 2019 ว่าสโมสรทำผิดพลาดมหันต์เรื่องที่หนุนหลัง “คิง หลุยส์”
อย่างไรก็ตามความบาดหมางของซัวเรซ กับ เอวร่า ยังไม่จอบ เพราะในเกมที่ “เดอะ เร้ดส์” ไปเยือนถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด หัวหอกจอมกัด ปฏิเสธที่จะจับมือกับ ดาวเตะเลือดเฟร้นช์ ก่อนเกมจะฟาดแข้ง แต่สุดท้ายทั้งเขา และ เคนนี่ ดัลกลิช ผู้จัดการทีมในเวลานั้นได้ออกมากล่าวขอโทษเรื่องดังกล่าว
ขณะที่ เอฟเอ กำลังพยายามสืบสวนกรณีของ เอวร่า ที่กล่าวหา ซัวเรซ ว่าเหยียดผิว นักเตะก็ยังมีโอกาสได้ลงสนามให้กับต้นสังกัด แต่เขาก็ยังคงสร้างเรื่องฉาวให้ตัวเองตกเป็นข่าวหน้า 1 ได้อีกครั้งในแมตช์ซัดกับ ฟูแล่ม
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่เขากำลังเดินออกจากสนามหลังเกมพ่าย “เจ้าสัวน้อย” 0-1 เมื่อเดือนธันวาคม 2011 ด้วยอารมรณ์เซ็งกอปรกับความรู้สึกผิดหวังทำให้ ซัวเรซ PG SLOT จัดการชูนิ้วกลางไปให้กับแฟนบอลเจ้าบ้าน ซึ่งตะโกนด่าเขาว่า “ไอ้ขี้โกง” ตลอดทั้งเกม
แน่นอนว่าการทำแบบนี้ส่งผลให้องค์กรลูกหนังเมืองผู้ดีจัดการแบนเขา 1 เกม พร้อมปรับเงิน 20,000 ปอนด์ (ราว 760,000 บาท)
แฟนบอลฟูแล่มไม่ใช่คนกลุ่มเดียวที่ตราหน้า ซัวเรซ ว่าเป็นพวกใช้แท็กติกขี้โกง แม้แต่ เดวิด มอยส์ ก็ยังอ้างว่า หัวหอกลิเวอร์พูล เป็นพวกจอมพุ่งลุ้ม และนั่นจึงนำมาสู่การสร้างท่าดีใจที่ทำเอาคอลูกหนังเมืองผู้ดีขำกลิ้งกันไปเลย
กุนซือชาวสกอตติช วิพากษ์วิจารณ์ ซัวเรซ ก่อนเกมเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้แมตช์เมื่อปี 2012 และนั่นทำให้ ซัวเรซ เก็บความรู้สึกเอาไว้ โดยหวังจะมาระบาดออกกับ เอฟเวอร์ตัน ซึ่งเขาก็ทำได้จริงๆเมื่อจัดการซัดประตูเบิกร่องให้ทีม
หลังจากยิงประตูได้ ซัวเรซ วิ่งไปที่ซุ้มม้านั่งสำรอง และจากนั้นก็ทำท่าพุ่งล้มต่อหน้า นายใหญ่ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน แต่งานนี้ มอยส์ มองว่าการกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องที่ตลกสิ้นดี และถือว่าทำให้ตนเองเซอร์ไพรส์มากๆ
ระหว่างเกมที่ อุรุกวัย พบกับ ชิลี ในรอบคัดเลือก ศึกฟุตบอลโลก 2014 ซัวเรซ มีปัญหากับ กอนซาโล่ ยาร่า บริเวณมุมธง โดยตอนนั้น ดาวยิง “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า เกิดอาการตะบะจัดการสาวหมัดใส่ แนวรับคู่แข่งแบบไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหม
ภาพจากกล้องวีดิโอแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า กองหน้าอารมณ์แปรป่วน เกิดอาการของขึ้นทันที เมื่อโดน ยาร่า บังอาจใช้มือเข้ามารุกรานบริเวณเป้าที่แสนห่วงแหน และงานนี้เจ้าตัวก็เลยจัดการสาวหมัดใส่ซะเลย แต่เดชะบุญที่ทั้งคู่ไม่โดนลงโทษใดๆ ทั้งสิ้นในเกมนั้น
ซัวเรซ มีโอกาสได้ดวลกับ ยาร่า อีกครั้งในศึก โคปา อเมริกา ปี 2019 แต่งานนี้เจ้าตัวกล่าวชื่นชมคู่กรณีว่าเป็นผู้เล่นที่กล้าหาญ หลังจากที่วิ่งเข้าไปเสียบสกัดแฟนบอลที่วิ่งเข้าไปในสนามระหว่างเกม…..โชว์ดีของแฟนบอลคนนั้นที่ไม่โดน ยาร่า ลวนลามเหมือนแข้งคนอื่นๆ
ซัวเรซ เพิ่งมาอยู่กับ อาแจ็กซ์ ได้ 3 เดือนเท่านั้น แต่เขาเริ่มสร้างปัญหาให้กับทีมได้อย่างรวดเร็ว เมื่อดันไปมีเรื่องกับ อัลเบิร์ต ลูเก้ เพื่อนร่วมสังกัดในเดือนพฤศจิกายน 2007 ซึ่งถือเป็นความห้าวเป้งของ ดาวเตะชาวอุรุกวัยอย่างแท้จริง
เหตุผลที่ทั้งคู่เริ่มมีปัญหากันเกิดขึ้นในสนามจากการแย่งกันยิงลูกฟรีคิกในเกมพบ เฟเยนูร์ด โดยในช่วงพักครึ่ง ซัวเรซ กับ ลูเก้ เข้าไปในห้องแต่งตัว และก็เปิดฉากทะเลาะกันอย่างรุนแรง สุดท้ายเพื่อนร่วมทีมต้องรีบเข้ามาแยกทั้งคู่ออกจากนั้น และจากนั้นพวกเขาก็โดนเปลี่ยนตัวด้วย
จริงๆ แล้ว ดาวเตะชาวสแปนิช ถือเป็นเพื่อนร่วมทีมที่น่ารักมากๆ ของ ซัวเรซ เพราะเขาคืนหนึ่งในไม่กี่คนที่ออกมาปกป้องเจ้าตัวจากกรณีที่กัด อิวาโนวิช ในอีก 5 ปีหลังจากนั้น พร้อมยืนยันว่า ซัวเรซ เป็นคนนิสัยดีจริงๆ
ไม่ใช่แค่ในพรีเมียร์ลีก และเกมระดับประเทศเท่านั้นที่ ซัวเรซ ได้สร้างวีรเวรเอาไว้ ขนาดในเกมเอฟเอ คัพ ปี 2013 พบกับ แมนส์ฟิลด์ สโมสรนอกลีกในเวลานั้นเขายังใช้ความเจ้าเล่ห์เพทุบายเพื่อเอาชนะคู่แข่งให้ได้ และก็ทำสำเร็จซะด้วย
จังหวะนั้น ลิเวอร์พูล มีโอกาสได้สวนกลับใส่คู่แข่งที่ต่ำชั้นกว่า และ ซัวเรซ ตะบันบอลไปติดเซฟของ อลัน แมร์ริอ็อตต์ ก่อนที่บอลจะกระดอนมาหาเขาอีกครั้ง แต่เจ้าตัวจงใจใช้มือเพื่อควบคุมบอล ก่อนที่จะส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่าย
แมตช์นั้นบอร์ดบริหารของแมนส์ฟิลด์ ทาวน์ ไม่พอใจอย่างมากถึงขนาดตราหน้า ซัวเรซ ว่าขโมยชัยชนะไปจากพวกเขา เพราะเกมนั้น “เดอะ เร้ดส์” เฉือนชนะไปหวุดหวิด 2-1
ซัวเรซ สร้างเรื่องฉาวกระฉ่อนในสนามอยู่บ่อยๆ แต่นอกสนามเขาก็ยังคงไม่ทิ้งลายความแสบเอาไว้เช่นกัน โดยในเวลานั้น ดาวเตะชาวอุรุกวัย กำลังจะหาหนชีวิตย้ายไปเล่นในอิตาลี เพราะอนาคตกับ บาร์เซโลน่า กำลังจะหมดลง
เมื่อปีที่ผ่านมามีการแฉสนั่นวงการฟุตบอลว่า ซัวเรซ เดินทางไปสอบภาษาอิตาเลียน ตอนที่เขาพยายามจะขอสัญชาติอิตาลี เนื่องจากนักเตะมีเป้าหมายที่จะย้ายไปค้าแข้งกับ ยูเวนตุส และเจ้าตัวก็สอบผ่านไปแบบฉลุย
อย่างไรก็ตามมีความไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับการสอบครั้งนี้ เนื่องจาก ซัวเรซ ซึ่งมีภรรยาที่มีเชื้อสายอิตาเลียน สอบผ่านในระดับ บี 1 (B 1) ทั้งๆ ที่พูดภาษาอิตาเลียนไม่ได้เลย และว่ากันว่าอาจจะเกิดเหตุข้อสอบรั่ว ทำให้เขาได้รับเฉลยข้อสอบล่วงหน้า ซึ่งถือเป็นการทุจริตในการสอบ
จากเหตุการณ์นี้ทำให้เจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยเปรูจา และยูเว่ ต้องตกอยู่ภายใต้การสืบสวนของตำรวจ แต่งานนี้ ซัวเรซ ไหวตัวทันเขาตัดสินใจไม่ย้ายไปเล่นในอิตาลี และสุดท้ายก็ได้ย้ายไปเป็นสมาชิกใหม่ “ตราหมี” แอตเลติโก มาดริด
นอกจากกีฬาแล้ว เรายังเกมอีกมากมายให้ทุกท่านได้สัมผัส คลิกที่นี่
ท่านที่สนใจ สามารถสมัครสมาชิก UFABET ได้เเลย เพื่อรับสิทธิพิเศษมากมาย พบกับเดิมพันสุดเร้าร้อน ที่จะทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับเกมส์กีฬา ที่ราคาดีที่สุด ร้อนแรงที่สุด เปิดบอลครบทุกลีก
สำหรับท่านที่ต้องการความตื่นเต้น วันนี้ UFABET เปิดให้แทงบอลสเต็ป แบบขั้นต่ำเพียง 20 บาท ต่อบิล เพียง 2 คู่เท่านั้น ก็สนุกกับเกมส์เดิมพัน ราคาดีๆ น้ำงามๆ ได้แล้ววันนี้ อย่าพลาด สนุกเลย ง่ายๆ
Last Update : 6 พฤษภาคม 2021 (ข้อมูลล่าสุดปี 2021) VIEWS : 908 views
5 กุมภาพันธ์ 2023