Ufabet Official

UFABET OFFICIAL SPORT NEWS ข่าวสารวงการกีฬา ที่น่าสนใจ

สโมสร แมนเชสเตอร์ซิตี้

สโมสร แมนเชสเตอร์ซิตี้

สโมสร แมนเชสเตอร์ซิตี้ หนึ่งในตำนานอันแสนยาวนานของพรีเมียร์ลีกอังกฤษและยังเป็นสโมสรคู่ปรับเมืองกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดอีกด้วย โดยที่แห่งนี้เต็มไปด้วยนักเตะฝีเท้าดี ดีกรีขั้นเทพ จนบางทีตัวผู้เล่นสำรองเองนั้นยังเหนือกว่าตัวผู้เล่นจริงบางสโมสรด้วยซ้ำไปนั้นก็คือสโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี้ หรือ ฉายา เรือใบสีฟ้า

ทางตอนกลางของประเทศอังกฤษจุดกำเนิดของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี้ ได้ก่อตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1880 ในตอนเริ่มแรกมีชื่อทีมว่า “เซนต์ มาร์ก หรือว่า เวสต์กอร์ตัน ”เรียกได้ทั้ง 2 ชื่อ โดยมี แอนนา คอนเนลล์ และ ผู้ดูแลโบสถ์ เซนต์ มาร์ก อีก 2 คน เป็นผู้ร่วมก่อตั้งร่วมกัน

หากย้อนเวลากลับไปแล้วนั้นแต่เดิมทีมนี้ตั้งอยู่ทางตะวันออก ของเมืองแมนเชสเตอร์ ในตำบลกอร์ตัน ก่อนจะย้ายไปตั้งสังเวียนโม่แข้งแห่งใหม่ ในย่านไฮด์ โรด ของ เมืองอาร์ดวิก ซึ่งเป็นทำเลที่อยู่ใกล้กับเมืองแมนเชสเตอร์ และได้ทำการเปลี่ยนชื่อทีมไปเป็น “อาร์ดวิก เอเอฟซี” ตามสถานที่ตั้ง หลังจากนั้นในฐานะที่ทีมอาร์ดวิกได้เป็นสมาชิกก่อตั้งลีก ในระดับดิวิชั่น 2 เมื่อปี ค.ศ. 1892 จึงได้เข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลลีกอังกฤษ ในปีนั้นเช่นกัน

หลังจากนั้นไม่นานนักทีมมีปัญหาด้านการเงินอย่างหนักในช่วงปีค.ศ. 1893 – 1894 ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจนต้องมีการรื้อระบบการบริหารทีมครั้งใหญ่ พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อทีมเป็น “แมนเชสเตอร์ซิตี้ฟุตบอลคลับ” ตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน

และแล้วปี ค.ศ. 1899 จุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ได้เริ่มต้นขึ้น ทีมพวกเขาเลื่อนชั้นขึ้นไปอยู่ใน

ดิวิชั่น 1ซึ่งเป็นลีกสูงสุดในเวลานั้น หลังจากที่เป็นแชมป์ ฟุตบอลลีกดิวิชั่น 2 ของอังกฤษและ เป็นแชมป์แรกของพวกเขา ก่อนจะมาได้แชมป์เอฟเอคัพ หลังเฉือนชนะ โบลตัน 1-0 ในรอบชิงชนะเลิศ เมื่อวันที่ 23 เมษายน ค.ศ. 1904

แล้วเหตุการณ์กลับไม่เป็นอย่างที่หวังไว้ ในขณะที่ผลงานกำลังไปได้ดี แต่กลับเกิดเพลิงไหม้ สนาม “ไฮด์โรด” ในปี ค.ศ. 1920 ซึ่งทำให้อัฒจันทร์หลักเสียหายอย่างมาก จนเป็นเหตุทำให้ต้องย้ายไปใช้ สนาม “เมนโรด” ให้กลายเป็นสนามเหย้าแห่งใหม่ ในปี  ค.ศ. 1923

จากที่พวกเขาได้ก่อตั้งทีมขึ้นมา กว่า 1 ศตวรรษ UFABET มีเกียรติยศที่บันทึกไว้ คือ เป็นแชมป์ลีกสูงสุด 2 สมัย ในปี ค.ศ. 1937 และ  ค.ศ. 1968 แชมป์เอฟเอคัพ 4 สมัย แชมป์ฟุตบอลลีกคัพ 2 สมัย และ เป็นแชมป์ ยูฟ่า คัพ วินเนอร์ส คัพ อีก 1 สมัย แล้วช่วงปลายปี พ.ศ. 2500เรื่อยมา นับเป็นยุคที่ว่ารุ่งเรืองที่สุด ทีมชุดนี้ สามารถขึ้นไปถึงตำแหน่งแชมป์ได้หลายรายการ โดยมี โจ เมอร์เซอร์ เป็นผู้จัดการทีม และ มัลคอล์ม อัลลิสสัน เป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีม รวมถึง มียอดนักเตะชื่อดังมากมาย อาทิ โคลิน เบลล์

แต่อย่างไรก็ตามในปี  ค.ศ. 1976หลังจากเป็นแชมป์ลีกคัพ พวกเขาก็ไม่ได้ขึ้นถึงตำแหน่งแชมป์ ในรายการสำคัญใดๆอีกเลย และยังมีทำผลงานที่ย่ำแย่พอสมควรโดยเฉพาะ ในช่วงปี ค.ศ. 1987 พวกเขาต้องตกชั้น 2 ครั้ง ในรอบ 3 ปี จนลงไปอยู่ใน ดิวิชั่น 3 เดิม อยู่ถึง 1 ปี

สโมสร แมนเชสเตอร์ซิตี้

จนกระทั่งในปี ค.ศ. 2003 สโมสรได้ทำการย้ายสังเวียนโม่แข้งอีกครั้ง ไปที่ “เอติฮัดสเตเดียม” ซึ่งเป็นสนามปัจจุบัน โดยมีความจุถึง 48,000 ที่นั่ง ซึ่งเป็นการเช่าจากสภาเมืองแมนเชสเตอร์เป็นเวลาถึง 250 ปี และใช้เงินอีกราว 35 ล้านปอนด์ ในการปรับปรุงสนาม อีกหนึ่งเหตุผลที่สโมสรต้องย้ายสนามเหย้ามาที่ใหม่ก็เพราะทีแฟนบอลที่ติดตามเชียร์อย่างเหนียวแน่นมาตลอด แม้ทีมจะตกลงไปสู่ดิวิชันต่ำๆ โดย ทีมมียอดผู้ชมในนัดเหย้า เฉลี่ยกว่า 39,000 คน ต่อนัด และคาดว่าจะมีชาวอังกฤษไม่ต่ำกว่า 400,000 คน และคนทั่วโลก อีกกว่า 2 ล้านคน ที่เป็นแฟนบอลของทีม

แน่นอนว่าเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่าสโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี้ เคยมีเจ้าของเป็นคนไทย นั้นก็คือ คุณทักษิณ ชินวัตรแต่เป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆ ก่อนที่เวลาต่อมาจะขายสโมสรต่อให้กับกลุ่มแนวร่วมการลงทุนแห่งอาบูดาบี (Abu Dhabi United investment group – ADUG) เข้าซื้อกิจการสโมสรจาก คุณ ทักษิณ ในวันสุดท้ายของกำหนดเวลาซื้อขายนักฟุตบอลนั้นคือ เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2008 นั้นเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของสโมสร

เงินทุนสนับสนุนมากมายเข้ามาปรับเปลี่ยนทีมหลังจากกลุ่ม ADUG เข้ามาเทคโอเวอร์ ซึ่งในเวลานั้นทางกลุ่มก็ได้ส่งตัว สุไลมาน อัล-ฟาฮิมเข้ามาเพื่อดูแสสโมสรในนามกลุ่ม ADUG แต่เนื่องจากบทสัมภาษณ์ทางทีวี ที่อวดความร่ำรวยจนเกินงาม ทำให้โดนปลดออก และแล้วชื่อเจ้าของสโมสรที่แท้จริงปรากฏออกมานั้นคือ ชีค มานซูร์ บิน ซาเยด อัล นาห์ยาน น้องชายกษัตริย์ของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตต์ เป็นเจ้าของอีกทั้งยังได้แต่งตั้งคาลิด อัล มูบารัค เข้ามาทำหน้าที่ประธานสโมสร

นับตั้งแต่นั้นมาสโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี ก็ทำมผลงานดีมาโดยตลอด ในฤดูกาล 2011-2012 ทีมทำผลงานได้ดีตั้งแต่เปิดฤดูกาลมา โดยขึ้นเป็นที่ 1 ของตารางคะแนน และยึดอันดับนี้สลับกับทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด คู่ปรับร่วมเมืองขึ้นแซงไปเป็นที่ 1 บ้าง จนกระทั่งมาจนถึงวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 (ค.ศ. 2012) ซึ่งเป็นนัดสุดท้ายของการแข่งขัน ทั้งคู่มีคะแนนเท่ากัน คือ 86 คะแนน แต่ผลต่างของประตูได้เสียของแมนเชสเตอร์ซิตี้ดีกว่าถึง 8 ลูก โดยแมนเชสเตอร์ซิตีจะต้องพบกับ ควีนปาร์คแรนเจอส์ที่เอติฮัดสเตเดียม สนามของ สโมสร นิวคาสเซิล ยูไนเต็ต ตนเอง ในขณะที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายออกไปเยือน ซันเดอร์แลนด์ ซึ่งทั้งคู่ต้องการชัยชนะทั้งคู่ หากแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ชนะ แล้วแมนเชสเตอร์ซิตี้ทำได้แค่เสมอหรือแม้กระทั่งแพ้ แชมป์จะตกอยู่ที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดทันที ปรากฏว่าแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เอาชนะซันเดอร์แลนด์ไปได้ 0-1 ประตู ส่วนแมนเชสเตอร์ซิตี้ พลิกกลับมาตีเสมอและขึ้นนำในนาทีที่ 91 และ 94 อย่างปาฏิหาริย์ ชนะไป 3-2 และได้แชมป์พรีเมียร์ลีกไปครอง หลังจากรอคอยมานานกว่า 44 ปี

ปัจจุบันสโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี้ยังคงรักษาฟอร์มของทีมไว้ได้อย่างสม่ำเสมอ และประสบความสำเร็จอย่างมากมาย เก็บชัยชนะอย่างต่อเนื่อง และเป็นทีมที่ทุกทีมต้องยำเกรง ทุกอย่างที่กล่าวมานี้เป็นผลมาจากเจ้าของสโมสรที่ยังให้การสนับสนุนทีมอย่างเติมที่ ไม่ว่าจะเรื่องใดๆก็ตาม ทีมยังคงพัฒนาไปเรื่อยๆไม่มีวันหยุด ทั้งผู้จัดการทีมและตัวผู้เล่นที่คัดสรรค์มาร่วมทีมอย่างมีคุณภาพ ทำให้บอกเลยได้ว่าทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้ มีทีมสำรองที่ไม่แพ้ทีมหลักของบางทีมเลย แล้วพวกเขาก็คงจะไม่หยุดเพียงเท่านี้ เพื่อสร้างประวัติศาสตร์ในอนาคตกันต่อไป

เกรียติประวัติสโมสร

แชมป์ดิวิชั่นหนึ่ง/พรีเมียร์ลีก 6 ครั้ง

แชมป์ดิวิชันสอง/อีเอฟแอลแชมเปียนชิป 7 ครั้ง

แชมป์ลีกวัน 1 ครั้ง

แชมป์เอฟเอคัพ 6 ครั้ง

แชมป์อีเอฟแอลคัพ 7 ครั้ง

แชร์ริตีชีลด์/เอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์ 6 ครั้ง

แชมป์ยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ 1 ครั้ง

Last Update : 21 กุมภาพันธ์ 2021 (ข้อมูลล่าสุดปี 2021) VIEWS : 1101 views