สโมสรฟุตบอล เชฟฟีลด์ ยูไนเต็ด

สโมสรฟุตบอล เชฟฟีลด์ ยูไนเต็ด ทีมฟุตบอลที่หายหน้าหายตาจากศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษไปอย่างยาวนาน ถึง 10 กว่าปี  แต่ในฤดูกาล 2019 – 2020 นี้พวกเขากำลังกลับมา วันนี้เราจะไปทำความรู้จักกับสโมสรนี้กัน

สโมสรฟุตบอลเชฟฟีลด์ ยูไนเต็ด เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพของอังกฤษ ตั้งอยู่ในเมืองเชฟฟีลด์ เซาท์ยอร์กเชียร์ ก่อตั้งเมื่อวันที่ 22 มีนาคม ปี ค.ศ.1889 โดยผู้ก่อตั้งคือ เซอร์ ชาร์ลส์ เคร็ก ประธานสโมสรคริกเกตของเชฟฟีลด์ เว้นส์เดย์ เหตุเพราะฟุตบอลเป็นกีฬาอันดับหนึ่งของชาวเมืองเชฟฟีลด์ แทนที่กีฬาเดิมอย่างคริกเกต

อีกทั้งเชฟฟีลด์เป็นเมืองแห่งอุตสาหกรรมเหล็กกล้า ประชากรส่วนใหญ่ในเมืองเป็นชนชั้นแรงงานโดยส่วนใหญ่นิยมเล่นกีฬาฟุตบอลกันอย่างมาก สนามเหย้าของสโมสรคือ บรามอลล์ เลน ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชฟฟีลด์ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1855 นับได้ว่าเป็นสนามฟุตบอลอาชีพที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ความจุได้ถึง 32,000 กว่าคน ซึ่งในปัจจุบันก็ยังเปิดทำการอยู่

เชฟฟีลด์ ยูไนเต็ด ได้รับฉายาว่า “ดาบคู่” (The Blades) สื่อความหมายถึงอัตลักษณ์ของเมืองเชฟฟีลด์ ที่เป็นเมืองอุตสาหกรรมเหล็กกล้า เป็นแหล่งผลิตโลหะภัณฑ์ชั้นแนวหน้าที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกของอังกฤษ

สโมสรเชฟฟีลด์ ยูไนเต็ด มีช่วงชีวิตที่รุ่งโรจน์ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามในช่วงระหว่าง ปี ค.ศ 1897 – 1902 โดยได้เป็นแชมป์ลีกในปี ค.ศ 1898 อีกทั้งคว้าแชมป์เอฟเอคัพอีก 4 ครั้ง ในปี ค.ศ 1899 , 1902 และปี ค.ศ 1915 , 1925 ซึ่งทีมเชฟฟีลด์ยังเข้ารอบชิงชนะเลิศอีก 2 ครั้งในปี ค.ศ 1901 และปี ค.ศ 1963 รวมถึงเข้ารอบในรอบรองชนะเลิศอีก 4 ครั้ง ในปี ค.ศ 1961 , 1993 , 1998 และปี 2003

สโมสรฟุตบอล เชฟฟีลด์ ยูไนเต็ด

นอกจากนี้ในถ้วยลีกคัพ ทีมเชฟฟีลด์ได้เข้าถึงรอบรองชนะเลิศใน ค.ศ. 2003 นับได้ว่าเป็นผลงานที่ดีมากที่สุดของพวกเขา นับได้ว่ายุคที่รุ่งเรืองที่สุดของเชฟฟีลด์ยูไนเต็ดอยู่ในช่วง 40 ปีแรกของสโมสร ระหว่างปี 1895-1935 และจากนั้นในปี ค.ศ 1936 เป็นต้นมา พวกเขาก็ไม่เคยสัมผัสถ้วยแชมป์อีกเลย หลังจากนั้นพวกเขาก็มักจะขึ้นชั้น ตกชั้น สลับกันไป พวกเขาเคยเข้าถึงรอบรองชนะเลิศบอลถ้วยในประเทศทั้งสองถ้วย สโมสรฟุตบอล เบิร์นลีย์ และยังได้เตะเพลย์ออฟเลื่อนชั้นในเดอะ แชมเปี้ยนชิพอีกในฤดูกาล 2002 – 2003 น่าเสียดายที่พลาดทั้งหมด

ช่วงที่ทีมเชฟฟีลด์อยู่จุดตกต่ำที่สุด อยู่ในช่วงปี ค.ศ 1975 – 1981 จากที่จบอันดับ 6 ดิวิชัน 1 ในฤดูกาลปี 1974 – 1975 ในปีต่อมาพวกเขากลับตกลงไปอีกชั้นสู่ดิวิชัน 2 และอีก 3 ปีต่อมาก็ตกชั้นสู่ดิวิชัน 3 เท่านั้นยังไม่พอกับการตกแล้วตกเล่าชนิดที่กู่ไม่กลับ ในปี ค.ศ 1981 พวกเขาก็ตกชั้นสู่ดิวิชัน 4 (เทียบเท่าลีก ทู ในปัจจุบัน) แต่อยู่ได้แค่ปีเดียวพวกเขาก็พาตัวเองกลับสู่ดิวิชัน 3 และใช้เวลาแค่ 2 ปีก็สามารถเลื่อนชั้นกลับสู่ดิวิชัน 2 ได้อย่างอีกครั้ง

แต่ทว่าพวกเขาตกชั้นสู่ดิวิชัน 3 อีกครั้งในปี ค.ศ 1988 แต่หลังจากได้ผู้จัดการทีมคนใหม่คือ เดฟ บาสเซตต์ ซึ่งทำให้ทีมเชฟฟีลด์ยูไนเต็ด กลับสู่ยุคที่ถือว่าประสบความสำเร็จอีกครั้ง โดยใช้เวลาแค่ 2 ปี

โดยเดฟสามารถนำทีมเชฟฟีลด์ยูไนเต็ดคืนสู่ลีกสูงสุดอีกครั้งในปี ค.ศ 1990 หลังจาก 14 ปีที่ตกชั้นไป คราวนี้พวกเขาอยู่ได้ถึง 4 ฤดูกาล (เป็นหนึ่งในทีมที่อยู่ในยุคก่อตั้งพรีเมียร์ ลีก) และเข้าถึงรอบรองชนะเลิศเอฟเอ คัพในฤดูกาล 1992 – 1993 ก่อนตกชั้นอีกครั้งในปี 1994

พวกเขาไม่ได้อยู่ในลีกสูงสุดอีกเลยถึงอีก 12 ปี โดยในช่วงเวลาเหล่านั้นพวกเขาเกือบที่จะได้เลื่อนชั้นมาอยู่หลายครั้ง เช่น คราวที่เข้าถึงรอบเพลย์ออฟเลื่อนชั้นในปี ค.ศ 1997 ซึ่งควบคุมโดย โฮเวิร์ด เคนดัลล์ ปีถัดมาพวกเขาได้นีล วอร์น็อกเข้ามาคุม แต่ก็กลับสู่สภาวะที่ยากลำบากอีกครั้งเมื่อจบอันดับเกือบท้ายตารางและสถานการณ์ทางการเงินของทีมที่เข้าสู่ขั้นวิกฤต จึงไม่สามารถที่จะหาผู้เล่นมาเสริมในทีมได้ตามที่ต้องการ

และแล้วพวกเขาก็ประสบกับช่วงเวลาที่ยากลำบากอีกครั้งในเดอะ แชมเปี้ยนชิพ และในปี ค.ศ 2009 เควิน แบล็กเวลล์ พาทีมเข้าถึงรอบเพลย์ออฟเพื่อเลื่อนชั้นอีกครั้ง แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ทำให้ทีมเข้าสู่ยุคจุดดำดิ่งมืดมนอีกครั้ง โดยเฉพาะฤดูกาล 2010 – 2011 ถือเป็นหายนะอย่างแท้จริง เมื่อพวกเขาเปลี่ยนผู้จัดการทีมไปถึง 3 คน สุดท้ายก็ต้องตกชั้น ซึ่งคุมโดยมิกกี้ อดัมส์ ทำให้ทีมเชฟฟีลด์ต้องตกชั้นไปสู่ลีกวัน ในฤดูกาล 2011 – 2012 เลยทีเดียว

เกียรติประวัติสโมสร แทงบอลออนไลน์ ที่นี่ ufastar356.com

ดิวิชันหนึ่ง/พรีเมียร์ลีกชนะเลิศ (1ครั้ง): 1897-1898

เอฟเอคัพชนะเลิศ (4ครั้ง): 1899,1902,1915,1925

Last Update : 13 มิถุนายน 2021 (ข้อมูลล่าสุดปี 2021) VIEWS : 1731 views