หงส์แดงแรงต่อเนื่อง เก็บชัยห้านัดรวด

ลิเวอร์พูล ชนะ ปอร์โต้ 2-0 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กลุ่ม บี

หงส์แดง ที่คว้าตั๋วเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เรียบร้อย ยังคงฟอร์มร้อนแรง เดินหน้าคว้าชัย 5 นัดรวดในการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม บี หลัง ลิเวอร์พูลชนะปอร์โต้ 2-0 เมื่อวันพุธที่ 24 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

โดยที่ได้ทั้งสองตุงแบบสวยๆ ในช่วงครึ่งหลังจาก ติอาโก้ อัลกันตาร่า และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ส่วนทีมเยือนจากโปรตุเกส แม้เป็นฝ่ายปราชัย แต่ยังคงมีลุ้นเข้ารอบน็อกเอาต์

เกมนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ดร็อปผู้เล่นตัวจริงหลายคน แต่ยังคงสตาร์ท โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กับ ซาดิโอ มาเน่ เป็นตัวจริง พร้อมให้ อลีสซง เบ็คเกอร์ สวมปลอกแขนกัปตันทีม ขณะที่ ปอร์โต้ มาแบบฟูลทีม นำทัพโดย เปเป้, หลุยส์ ดิอาซ และ เมห์ดี้ ทาเรมี่    

ช่วงต้นเกม ปอร์โต้ เล่นได้น่ากลัวทีเดียว ทำเอาแนวรับ หงส์แดง ป่วนไม่น้อย แต่ก็ได้แค่เสียว ยังไม่มีประตูเกิดขึ้น เกมผ่านพ้นไปราวครึ่งชั่วโมง ทั้งสองทีมเล่นได้สูสี แต่ยังไม่มีโอกาสเข้าทำแบบจะแจ้ง     

นาทีที่ 37 ติอาโก้ อัลกันตาร่า แทงบอล ให้ ซาดิโอ มาเน่ หลุดเข้าไปแปบอลเล่นทางเสียบเสาอย่างเฉียบขาด แต่น่าเสียดายที่ VAR ชี้ชัดเป็นจังหวะล้ำหน้าของ มาเน่ ทำให้ ลิเวอร์พูล อดได้ประตูขึ้นนำ 

จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล 0-0 ปอร์โต้

ครึ่งหลัง ปอร์โต้ เริ่มเกมด้วยความคึกคักเหมือนเดิม แต่ยังคงมาเสียในจังหวะสุดท้าย 

นาทีที่ 52 ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ 1-0 จากการกระหน่ำแถวสองแบบสุดสวยระยะร่วมๆ 30 หลาของ ติอาโก้ อัลกันตาร่า ซึ่งถือเป็นประตูที่สองของเจ้าตัวในสีเสื้อหงส์แดง

นาทีที่ 70 หงส์แดง หนีเป็น 2-0 จากจังหวะที่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ผ่านบอลให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดึงจังหวะหลอกผู้เล่นทีมเยือนหนึ่งครั้ง ก่อนกดด้วยซ้าย บอลผ่านมือ ดีโอโก้ คอสต้า นายทวาร ปอร์โต้ เข้าไปอย่างเฉียบขาด 

จบเกม ลิเวอร์พูลชนะปอร์โต้ 2-0 เดินหน้าคว้าชัย 5 นัดรวด ในรอบแบ่งกลุ่ม

หงส์แดง ที่ซิวแชมป์กลุ่ม บี เรียบร้อย มี 15 คะแนนเต็ม จากการลงแข่ง 5 นัด ส่วน ปอร์โต้ แม้ปราชัยนัดนี้ แต่ยังคงอยู่ที่สอง มี 5 แต้ม เนื่องจากผลอีกคู่ เอซี มิลาน สามารถบุกไปเชือด UFABET แอตเลติโก มาดริด ถึงบ้าน 1-0

ทำให้ทั้งสองทีมมี 4 คะแนนเท่ากัน โดยทั้งสามทีมนี้ต้องไปลุ้นเข้ารอบในฐานะรองแชมป์กลุ่มในนัดสุดท้าย ที่จะฟาดแข้งกันช่วงต้นเดือนหน้า  

รายชื่อนักเตะ
    
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ – เนโก วิลเลี่ยมส์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, โฌแอล มาติป, คอสตาส ซิมิคาส (แอนดี้ โรเบิร์ตสัน น. 64) – ไทเลอร์ มอร์ตัน, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน (เจมส์ มิลเนอร์ น. 82) , ติอาโก้ อัลกันตาร่า (จอร์แดน เฮนเดอร์สัน น. 63) – โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ฟาบินโญ่ น. 72), ซาดิโอ มาเน่ (ดิว็อก โอริกี้ น. 72), ทาคุมิ มินามิโนะ 

ปอร์โต้ (4-4-2) : ดีโอโก้ คอสต้า – ชูเอา มาริโอ, เปเป้ (ฟาบิโอ การ์โดโซ่ น. 25), ชานเซล เอ็มเบมบ้า, ไซดู ซานูซี่ – โอตาวิโอ, มาเตอุส อูริเบ (มาร์โค กรูยิช น. 78), แซร์โจ้ โอลิเวยร่า (วิตินญ่า น. 65), หลุยส์ ดิอาซ – เอวานิลซอน (อันโตนิโอ มาร์ติเนซ น. 78), เมห์ดี้ ทาเรมี่ (ฟรานซิสโก้ คอนไซเซา น. 54)

ข่าวที่น่าสนใจ
เปิดหัวด้วยสามแต้ม ผีแดงบุกเชือดเรือดำน้ำ
สิงห์บลูส์ยึดจ่าฝูง หลังเปิดบ้านถลุงม้าลาย
หงส์แดงชุดบี เจอเอฟซี ปอร์โต้
ศึกชิงจ่าฝูง เรือใบไฟท์ปารีสฯ

Last Update : 25 พฤศจิกายน 2021 (ข้อมูลล่าสุดปี 2021) VIEWS : 571 views