5 ประเด็น อังกฤษพลาดแชมป์ยูโร

แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ ไม่สามารถคืนความสุขให้กับเพื่อนร่วมชาติเมื่อทัพ สิงโตคำราม พ่าย อิตาลี ในการดวลจุดโทษ 3-2 หลังเสมอกันในเวลา 120 นาที 1-1 UFABET ในเกมรอบชิงชนะเลิศ ศึกยูโร 2020 เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น เรามาดู ประเด็นอังกฤษพ่ายอิตาลี

ทรี ไลอ้อนส์ ดูเหมือนจะได้เปรียบตั้งแต่ไก่โห่จากการได้ประตูนำเมื่อ ลุค ชอว์ ซัดประตูสุดสวยให้ทีม และกลายเป็นประตูที่เร็วที่สุดในรอบชิง ศึกยูโรซะด้วย แต่หลังจากนั้น อิตาลี เดินเครื่องบดขยี้และมาได้ประตูตีเสมอในครึ่งหลังจาก เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่

จากนั้นช่วงเวลาที่เหลือ อัซซูรี่ ยังคงไล่กด อังกฤษ อย่างต่อเนื่อง แต่จนแล้วจนรอดก็ยิงประตูเพิ่มไม่ได้จบ 90 นาทีเสมอ 1-1 ต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาทีก็ยิงกันไม่ได้ทำให้ต้องไปดวลจุดโทษ และเป็นลูกทีมของกุนซือโรแบร์โต้ มันชินี่ ที่ยิงแม่นกว่าคว้าชัยชนะไปครอง ส่งผลให้ อิตาลี ได้แชมป์ยูโรสมัยที่ 2 สล็อต อย่างยิ่งใหญ่

ลุค ชอว์ ในร่างสมบูรณ์

แม้ว่า อังกฤษ จะพบกับความผิดหวังก็ตาม แต่สำหรับ ลุค ชอว์ ต้องบอกเลยว่านี่คือทัวร์นาเมนต์ของเขาอย่างแท้จริง และเป็นการแสดงให้เห็นว่า โชเซ่ มูรินโญ่ คิดผิดที่มองข้ามศักยภาพของเขาสมัยที่ทำงานร่วมกันที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ผลงาน 7 เกม 3 แอสซิสต์ และ 1 ประตูถือว่าเป็นบทพิสูจน์ให้ มูรินโญ่ และหลายๆ คนที่ปรามาสฟอร์มของเขามาตลอดได้เป็นอย่างดี และคงไม่เป็นการกล่าวยกยอเกินไปว่า ชอว์ คือแบ็กซ้ายที่ดีที่สุดประจำศึกยูโร 2020 อย่างแท้จริง

ในเกมนัดชิง ชอว์แสดงให้เห็นถึงการเล่นที่มั่นใจหลังจากที่ยิงประตูสุดสวยให้ทีมขึ้นนำ หลังจากนั้นก็ทำผลงานได้โดดเด่นทั้งเกมรุก และเกมรับ มีจังหวะเปิดบอล แทงบอล จากริมเส้นกดดันกองหลังอิตาลีได้บ่อยๆ 

ฉะนั้นผลงานแบบนี้แฟนบอลแมนฯ ยูไนเต็ด คงคาดหวังว่าเขาจะเล่นได้โดดเด่นกับ “ปีศาจแดง” เหมือนกับที่เล่นให้อังกฤษ ในศึกยูโรครั้งนี้ และถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ งานนี้คงจะได้เห็นทีเด็ดจากริมเส้นฝั่งซ้ายของ แมนฯ ยูฯ มากยิ่งขึ้นแน่นอน 

อัซซูรี่ กัดไม่มีปล่อย

ปกติแล้วแฟนบอลมักจะเห็น อิตาลี เป็นพวกเล่นแบบตีหัวเข้าบ้าน หรือ “คาเตนัชโช่” แต่ในยุคของ โรแบร์โต้ มันชินี่ ต้องบอกเลยว่าเขาเปลี่ยนโชว์ทีมกลายเป็นชาติที่เล่นเกมรุกได้อย่างดุดัน และยังมีเกมรับที่เหนียวแน่นด้วย

อัซซูรี่ เสียสมาธิแค่ครั้งเดียวในช่วงต้นเกมจนทำให้พวกเขาโดน อังกฤษ ยิงประตูขึ้นนำ แต่หลังจากนั้น “มันโช่” แอนด์ โค. ไม่ได้มีอาการตื่นตระหนก หรือเล่นด้วยความประหม่าเลย พวกเขายังคงเดินเกมบุกบดขยี้ “สิงโตคำราม” ชนิดที่โงหัวไม่ขึ้น

จริงๆ แล้ว อิตาลี สร้างโอกาสที่จะยิงประตูตีเสมอในช่วงครึ่งแรกหลายครั้ง แต่น่าเสียดายที่การจบสกอร์ยังไม่คม โดยเฉพาะลูกยิงไกลของ  เฟเดริโก้ เคียซ่า ที่ถากเสาออกไปแบบมีลุ้นเลยทีเดียว PGSLOT ในช่วงทดเจ็บครึ่งแรกจังหวะ ชิโร่ อิมโมบิเล่ เอี่ยวตัวยิงในกรอบเขตโทษ ถ้าไม่โดน จอห์น สโตนส์ บล็อกเอาไว้ คงใส่สกอร์ได้เลย

ครึ่งหลัง อิตาลี ก็ยังดุดันกด อังกฤษ ตลอดและเกือบได้ประตูจาก เคียซ่า แต่เดชะบุญที่ จอร์แดน พิคฟอร์ด โชว์ซูเปอร์เซฟ อย่างไรก็ตามความพยายามในการเล่นเกมรุกของพวกเขามาประสบผลสำเร็จจาก เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ 

หลังจากนั้น มันชินี่ พยายามแก้เกมด้วยการเปลี่ยนผู้เล่นเปลี่ยนแท็กติกเพื่อหวังจะเอาชนะ อังกฤษ ให้ได้ใน 90 นาทีแต่ก็ไม่สำเร็จ ช่วงต่อเวลาพิเศษ รูปเกมก็เหมือนเดิม และบทสรุปความพยายามของพวกเขามาสำเร็จในการดวลจุดโทษ

 ผลงานของ อิตาลี ในยุค มันชินี่ ถือเป็นการรบคำครหาของหลายๆ ชาติที่ตราหน้าพวกเขาว่าเป็น “ทีมจอมอุด” หรือ “ตีหัวเข้าบ้าน” เพราะ อัซซูรี่ ยุคนี้คือทีมที่เล่นเกมรุกไหลลื่น และมีแท็กติกที่ปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา 

แฮร์รี่ เคน ทำดีที่สุดแล้ว

แฮร์รี่ เคน อาจจะเริ่มต้นทัวร์นาเมนต์นี้ค่อนข้างอืดไปหน่อย แต่หากมองแบบเป็นกลางเขาทำหน้าที่เปรียบเสมือนเพลย์เมกเกอร์มากกว่า “หน้าเป้า” ด้วยซ้ำ เพราะแทบทุกเกมเจ้าตัวมักจะลงมาล้วงบอลลึกเป็นประจำเพื่อสร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีม

ในแมตช์นัดชิง จังหวะที่ “สิงโตคำราม” ได้ประตูขึ้นนำ มาจากการวิ่งประคองรอรับบอลจาก ชอว์ ในแดนตัวเอง ก่อนจะใช้สายตาเฉียบคมโยนไปให้ คีแรน ทริปเปียร์ ทางฝั่งขวาที่ครอสยาวมาให้ แบ็กซ้าย แมนฯ ยูไนเต็ด กดประตูอย่างงดงาม

 สำหรับเกมนี้ เคน รู้ว่าคงจะโดน โบนุชชี่ กับ คิเอลลินี่ ตามประกบติดแบบหายใจรดต้นคอ ทำให้เขาเลือกที่จะวิ่งลงต่ำหาพื้นที่รับบอล และคอยผ่านบอลให้กับเพื่อนร่วมทีมได้มีโอกาสทำประตูซึ่งเจ้าตัวก็ทำได้ดีเลยทีเดียว

เคน มักจะวิ่งไปรับบอลลึก และทุกครั้งที่ครองบอลได้ผู้เล่นอิตาลีมักจะทำฟาวล์ ทำให้ อังกฤษ ได้ฟรีคิกหลายครั้ง แต่น่าเสียดายที่จังหวะแบบนี้พวกเขาไม่สามารถเปลี่ยนให้มันเป็นประตูได้ 

ผลงานซัดไป 4 ประตูในทัวร์นาเมนต์นี้ และการคอยทำหน้าที่ไม่ใช่แค่ยืนเป็นหน้าเป้า คงไม่มีใครกล้าตำหนิ สตาร์ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เพราะเขาทุ่มเทให้ทุกอย่างแล้ว PG SLOT แต่ในเมื่อทีมไม่มีวาสนาก็เป็นได้แค่พระรองต่อไป 

เซาธ์เกต ไม่มีความเด็ดขาด

หนึ่งในความพ่ายแพ้ที่แฟนบอลอังกฤษจะนำมาใช้เป็นข้ออ้างคงหนีไม่พ้นแท็กติกของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ซึ่งเป็น ประเด็นอังกฤษพ่ายอิตาลี เพราะหลังจากที่ทีมได้ประตูนำตั้งแต่ยังไม่ถึง 2 นาที พวกเขากลับหันมาเล่นตั้งรับชนิดที่ไม่คิดจะสวนกลับเลย

จริงๆ แล้ว อังกฤษ มีโอกาสที่จะยิงประตูหนีห่างด้วยซ้ำหาก เซาธ์เกต เลือกที่จะวางแท็กติกสวนกลับเร็ว เพราะ อิตาลี ก็ไม่ได้มีเกมรับที่เหนียวแน่นมากนัก ซึ่งดูได้จากตั้งแต่รอบน็อกเอาต์พวกเขาเสียประตูมาตลอด 

แต่ดูเหมือน เซาธ์เกต จะเล่นแบบปลอดภัยให้ก่อนในครึ่งแรกหลังจากที่ได้ประตู อังกฤษ ไม่มีจังหวะหวาดเสียวอีกเลย ส่วนครึ่งหลังยิ่งหนักเพราะทีมไม่มีทีเด็ดอะไรทั้งนั้น สุดท้ายทำนบแตกโดนตีเสมอ

หลังจากนั้นแทนที่ เซาธ์เกต จะปรับแท็กติกสู้กลายเป็น มันชินี่ ที่พยายามแก้เกมเพื่อหวังที่จะนำ “อัซซูรี่” ปิดบัญชีให้ได้ในเวลา 90 นาที ขณะที่นายใหญ่ “ทรี ไลอ้อนส์” แก้เกมทั้งทีแต่ดันเปลี่ยนผู้เล่นที่ลงแล้วไม่ได้ก่อประโยชน์อะไรเลย

ทั้ง บูกาโย่ ซาก้า, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่ลงสนามมาในกลางครึ่งหลังแต่ไม่ได้ทำให้ทีมดูอันตรายอะไรเลย ส่วน แจ็ค กรีลิช ที่น่าจะช่วยทีมได้มากกว่านี้ก็ดันไปเปลี่ยนในช่วงต่อเวลาพิเศษซะงั้น เช่นเดียวกับ มาร์คัส แรชฟอร์ด กับ เจดอน ซานโช่ ทั้งคู่ได้ลงมาตอนที่เหลือแค่นาทีเดียวก่อนหมดเวลา 120 นาที

จริงๆ แล้วหากมองกลับกันถ้า เซาธ์เกต เลือกส่ง กรีลิช, แรชฟอร์ด และ ซานโช่ ลงสนามในช่วงกลางครึ่งหลัง เราอาจจะได้เห็นทีเด็ดของสามคนนี้ มากกว่าแค่การลงไปยิงจุดโทษแถมยิงไม่เข้าอีกต่างหาก 

 สุดท้ายแล้วหากวันนี้ อังกฤษ เป็นแชมป์ แน่นอนว่าแท็กติกของ เซาธ์เกต คงไม่มีใครออกมาตำหริ แต่ในเมื่อไม่ได้แชมป์งานนี้บอกเลยว่ากุนซือเครางามโดนลากไส้จวกแหลก….ไอ้ความดีที่ทำมาจนนำทีมเข้าชิง หายวับไปกับตา !!

อังกฤษคงต้องรออีกต่อไป

ฟุตบอล’ส คัมมิ่ง โฮม!” (​​Football’s coming home!) เสียงเชียร์ดังกระหึ่มในช่วงที่ผ่านมา ตอนนี้กลายเป็นงานกร่อยไปเรียบร้อยแล้ว เพราะฟุตบอลมันไม่ได้กลับบ้าน แต่มันดันเดินทางไปอยู่ที่กรุงโรมซะงั้้น

ความคาดหวังของแฟนบอลอังกฤษที่อยากเห็นดินแดนที่พวกเขาอ้างว่าเป็นถิ่นกำเนิดเกมลูกหนัง ผงาดคว้าแชมป์ระดับชาติอีกครั้ง หลังจากที่เคยทำได้เมื่อกว่าครึ่งศตวรรษ ตอนที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 1966 ซึ่งแน่นอนว่าลูกๆ หลานๆ ของพวกเขาไม่เคยเห็นช่วงเวลาแห่งความสุขแบบนั้นแบบสดๆ 

ทุกอย่างดูเหมือนสวรรค์ขีดเส้นให้ อังกฤษ จะประสบความสำเร็จ ทั้งการได้เล่นเกมนัดชิงที่สนามเวมบลีย์ เส้นทางตั้งแต่รอบน็อกเอาต์ มาจนถึงเกมรอบชิงชนะเลิศ ที่ไม่ได้ลำบากยากเย็นเมื่อเทียบกับ อิตาลี 

อย่างไรก็ตามต่อให้ตลอดการเดินทางจะไร้อุปสรรคความยากลำบากก็ตาม แต่สุดท้ายเมื่อวาสนาไม่ถึง “สิงโตคำราม” ก็ได้แต่นอนซมจมน้ำตาต่อไป และประโยคที่ว่า “ฟุตบอล’ส คัมมิ่ง โฮม!” ตอนนี้กลายเป็น ฟุตบอล’ส คัมมิ่ง โรม ! (Football’s coming Rome!) เรียบร้อย

บทความที่น่าสนใจ
อัพเดต ตลาดนักเตะ 11/7/64
เช็คฟิต 4 แข้งหงส์ ก่อนทัวร์ปรีซีซั่น

Last Update : 12 กรกฎาคม 2021 (ข้อมูลล่าสุดปี 2021) VIEWS : 718 views